เปิดบริษัท จดทะเบียนบริษัท จดทะเบียนห้างหุ้นส่วน จังหวัด สตูล ท่านไม่ต้องเดินทาง เราจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าพบ ให้ท่านเซ็นต์เอกสาร และ จดทะเบียนเสร็จในวันเดียวกัน เราบริการทั่วประเทศ

โทร 080 173 2000 , 080 174 2000 , 02 933 5511

จดทะเบียนบริษัท (เปิดบริษัท)

ค่าบริการ 5,000 บาท

 

ประมาณการค่าใช้จ่าย จดทะเบียนบริษัท สำหรับทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1 ล้านบาท

ประมาณการค่าใช้จ่าย

บาท

ค่าบริการจดทะเบียนบริษัท 5,000
ขอหมายเลขผู้เสียภาษี – 0 –
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม – ฟรี – 0 –
จัดทำตราประทับ 500
บวก ค่าธรรมเนียม – กรมพัฒนาธุรกิจ 6,500
บวก ค่าเดินทาง – 0 –

รวมค่าใช้จ่าย          

12,000

หมายเหตุ
  1. กรณีมีชาวต่างชาติ ร่วมถือหุ้นหรือ ร่วมเป็นกรรมการ ค่าบริการดังกล่าว คิดเพิ่ม 3,000 บาท
  2. การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่างจังหวัด(ไม่ใช่อำเภอเมือง) เราจะจดผ่านระบบอินเตอร์เน็ท /หรือไม่ ท่านต้องอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างอำเภอ

ครอบคลุมขอบเขตบริการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • จดทะเบียน ต่างๆ ณ จังหวัดท่าน โดยครอบคลุมงานจดทะเบียน ดังต่อไปนี้
    • จดทะเบียนบริษัท
    • ขอหมายเลขผู้เสียภาษี
    • จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • จัดส่งเจ้าหน้าที่ของ นาราฯ นำเอกสารให้ท่านเซ็นต์ยังจังหวัดของท่าน
  • ไม่รวมการจัดทำใบหุ้น สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น จดทะเบียนประกันสังคม
  • ไม่รวมแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ หรือสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ จำเป็นต้องเรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม โดยที่เรามีเจ้าหน้าที่ต่างชาติซึ่งปฎิบัติงานเต็มเวลาดำเนินการประสานงาน
ท่านสามารถดูเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี้

แก้ไข รายการจดทะเบียน บริษัท / ห้างหุ้นส่วน – จดทะเบียนเปลี่ยนแปลง บริษัท / ห้างหุ้นส่วน

ค่าบริการ

  • จดทะเบียนเพิ่ม – ลด กรรมการ (เปลี่ยนแปลงกรรมการ) 2,500 บาท
  • จดทะเบียนเปลี่ยนอำนาจกรรมการ 2,500 บาท
  • จดทะเบียนเปลี่ยนแปลง – เพิ่ม วัตถุประสงค์ 2,500 บาท
  • จดทะเบียนเพิ่ม ทุน 2,500 บาท
  • จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัท (พร้อมตราประทับ) 2,500 บาท
  • จดทะเบียนเปลี่ยนตราประทับ 2,500 บาท
  • เปลี่ยนแปลงบัญชี รายชื่อผู้ถือหุ้น 1,500 บาท
  • แก้ไขอำนาจกรรมการ 2,500 บาท
  • จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงาน 3,500 บาทจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,500 บาท

หมายเหตุ

  1. ค่าธรรมเนียม จะสรุปแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้งหนึ่ง เมื่อออกใบเสนอราคา ก่อนเริ่มงาน
  2. กรณีต่างจังหวัด ค่าเดินทาง จะสรุปแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้งหนึ่ง เมื่่อออกใบเสนอราคา ก่อนเริ่มงาน

บริการอื่น

  • คัดสำเนาเอกสารทางราชการ เช่น เอกสารสำคัญของบริษัท คัดหนังสือรับรอง, คัดข้อบังคับ, คัดวัตถุประสงค์, คัดคำรับรอง ตราประทับ, คัดงบการเงิน, แบบ ภาษีเงินได้นิติบุคคล แบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และื่อื่นๆ คัดเอกสารแบบแสดงรายการภาษีพร้อมรับรองเอกสาร
  • คัดสำเนาเอกสารทะเบียน บริษัท/ห้างหุ้นส่วน อื่นๆ
  • รับรองเอกสาร โนตารี่พับลิค
  • แปลเอกสาร
  • ขอใบอนุญาตต่างๆ เช่น ใบอนุญาตท่องเที่ยว ใบอนุญาตเปิดเค้าเตอร์แลกเงิน ใบอนุญาตนำเข้า – ส่งออก ,
  • เตรียมเอกสาร เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร และ ช่วยเหลือ ณ ธนาคาร
  • บริการเป็นตัวแทนเข้าพบสรรพากรเพื่อชี้แจงต่างๆ
  • บริการเจรจาต่อรองกับหน่วยงานของราชการ
  • บริการจดทะเบียน – จัดทำและนำยื่นประกันสังคม
  • บริการนักบัญชีที่มีคุณสมบัติเพื่อรองรับการปฎิบัติตาม พรบ.การบัญชี พ.ศ. 2543 และ พรบ.วิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547
  • คัดสำเนาโฉนดที่ดิน
  • บริการเป็นตัวแทน เข้าประมูลทรัพย์ คัดค้านการประมูลทรัพย์ ณ กรมบังคับคดี

นักบัญชีอิสระ แต่ละจังหวัด ร่วมเป็น พันธมิตร กับ นาราการบัญชี

นาราการบัญชี เดินทางจดทะเบียนบริษัททั่วประเทศ แต่ไม่สามารถให้บริการบัญชี ได้ทั่วประเทศ ดังนั้น หากลูกค้าจดทะเบียนใหม่ ต้องการนักบัญชี นาราการบัญชี จะแนะนำ นักบัญชีอิสระ ในแต่ละจังหวัด ให้กับลูกค้า 

ดังนั้น หากนักบัญชีอิสระ ท่านใดสนใจเป็นพันธมิตร กับ นาราการบัญชี ท่านสามารถ เข้าเวปไซท์ www.นักบัญชีอิสระ.com โดยท่านสามารถโพสท์ ตามจังหวัดที่ท่านสะดวกรับงาน  

เราบริการทั่วประเทศ เปิดบริษัท จดทะเบียนบริษัท นำเอกสารให้ท่านเซ็นต์ ณ จังหวัดท่าน และจดเสร็จในวันเดียวกัน

เราดำเนินธุรกิจมากว่า 15 ปี โดยเดินทางไปแล้วกว่า 45 จังหวัด และใน กทม. เราให้บริการเกือบทุกวัน ท่านมั่นใจได้ว่า เราเข้าใจ ปัญหา โดยได้วางแผน และสร้างระบบเพื่อป้องกัน  และทีมงานเรายังคงมุ่งมั่น ทำอย่างอย่างจริงจัง ตลอดมา

ท่าน จดทะเบียนเอง แต่ต้องการ ชื่อและหมายเลขผู้สอบบัญชี

เรายินดีให้รายละเอียดฟรี แต่ขอให้ท่านบริจาคเงินในนามท่าน ให้ โรงพยาบาลของรัฐบาล อย่างน้อย 500 บาท

(บริจาคแล้ว ส่งใบเสร็จให้เรา) คลิ๊กที่นี้

ท่าน จดทะเบียนเอง แต่ต้องการ ลายมือชื่อทนายรับรอง

เรายินดีให้รายละเอียดฟรี แต่ขอให้ท่านบริจาคเงินในนามท่าน ให้ โรงพยาบาลของรัฐ อย่างน้อย 500 บาท
(บริจาคแล้ว ส่งใบเสร็จให้เรา) คลิ๊กที่นี้

ท่านติดต่อเรา และนัดเซ็นต์เอกสาร ที่สตูลได้ที่

4 ถ.บุรีวานิช ต.พิมาณ อ.เมือง จ.สตูล 91000

หรือ โทร 080 173 2000, 080 174 2000

ข้อควรทราบเกี่ยว - จดทะเบียนบริษัท

ความหมายของบริษัทจำกัด

บริษัทจำกัด คือ การที่บุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปร่วมกันทำกิจการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรจากการดำเนินกิจการนั้นมาแบ่งปันกัน โดยบริษัทจำกัด จะแบ่งทุนออกเป็นหุ้น มูลค่าหุ้นละเท่าๆ กัน ผู้ลงทุนในบริษัท เรียกว่า “ผู้ถือหุ้น” โดยผู้ถือหุ้นรับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่า ของหุ้นที่ตนถือ เมื่อจดทะเบียนบริษัทจำกัดแล้ว จะมีสภาพเป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายแยกต่างหากจากผู้ถือหุ้น และได้รับเลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก ซึ่งจะถูกใช้เป็นเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของกรมสรรพากรด้วย

ชื่อบริษัท

สำหรับชื่อบริษัท ถ้าจะนำชื่อไปใช้ในดวงตรา ป้ายชื่อ หนังสือ จดหมาย หรือ เอกสารอย่างอื่นเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทต้องใช้คำว่า “บริษัท” ไว้หน้าชื่อ และ “จำกัด” ไว้ท้ายชื่อด้วย ถ้าเป็นอักษรต่างประเทศต้องใช้คำซึ่งมีความหมายว่า “บริษัทจำกัด” ประกอบชื่อ เช่น ถ้าใช้ชื่อเป็นอักษรภาษาอังกฤษต้องใช้คำว่า “Company Limited” หรือ “Co., Ltd.” หรือ “Limited” หรือ “Ltd.” ประกอบชื่อ เป็นต้น

หน้าที่ของบริษัทจำกัด

การที่บริษัทมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายทำให้มีสิทธิ หน้าที่รับผิดชอบที่จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 รวมทั้งต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ดังนี้

  1. ต้องมีที่ตั้งสำนักงานซึ่งถือเป็นภูมิลำเนาของบริษัทที่สามารถติดต่อได้ หากมีการย้ายที่ตั้งสำนักงานจากที่จดทะเบียนไว้ ก็ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนย้ายที่ตั้งสำนักงานต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท ถ้าไม่ดำเนินการมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินสองหมื่นบาท
  • กรรมการที่กระทำหรือละเว้น ไม่เกินห้าหมื่นบาท
  1. จัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ให้จัดทำตั้งแต่วันที่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เพื่อบันทึกข้อมูลของผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น และการเข้า-ออกจากการเป็นผู้ถือหุ้น รวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับการโอนหุ้นและการเปลี่ยนแปลงรายการต่างๆ และต้องเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานของบริษัท สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นต้องเปิดให้ผู้ถือหุ้นดูได้ในระหว่างเวลาทำการไม่น้อยกว่าวันละ 2 ชั่วโมง โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียม ถ้าไม่จัดทำ ไม่เก็บรักษา หรือไม่ให้ผู้ถือหุ้นดูสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินสองหมื่นบาท
  • กรรมการที่กระทำหรือละเว้น ไม่เกินห้าหมื่นบาท

            นอกจากนี้ยังต้องจัดทำใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกคนไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดง การเป็นเจ้าของหุ้นและจะเก็บค่าธรรมเนียมก็ได้แต่ต้องไม่เกินสิบบาท โดยรายละเอียดในใบหุ้นต้องมีชื่อบริษัท หมายเลขหุ้น มูลค่าของหุ้นชำระค่าหุ้นแล้ว หุ้นละเท่าใด มีชื่อของผู้ถือหุ้นหรือคำว่าใบหุ้นออกให้แก่ผู้ถือ และให้กรรมการอย่างน้อย 1 คน ลงลายมือชื่อเป็นสำคัญ ถ้าไม่ทำใบหุ้น หรือเรียกค่ำธรรมเนียมเกิน หรือ มีรายละเอียดในใบหุ้นไม่ครบถ้วนมีความผิด ปรับ

  • บริษัท ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
  • กรรมการที่กระทำหรือละเว้น ไม่เกินห้าหมื่นบาท
  1. หลังจากนั้นภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจะต้องจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นขึ้นเป็นครั้งแรก และต่อจากนั้นในทุกๆ รอบ ระยะเวลา 12 เดือนก็ต้องจัดประชุมแบบนี้อีกอย่างน้อยหนึ่งครั้ง การประชุม ที่นอกเหนือจากนี้เรียกว่าการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น  ถ้าไม่เรียกประชุมมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินสองหมื่นบาท
  • กรรมการที่กระทำหรือละเว้น ไม่เกินห้าหมื่นบาท

สำหรับวิธีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัททุกครั้ง จะต้องนัดประชุมผู้ถือหุ้น โดยวิธีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ในท้องที่ และส่งหนังสือนัดประชุมทางไปรษณีย์ ตอบรับไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนล่วงหน้าก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน เว้นแต่นัดประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องที่จะต้องลงมติพิเศษให้กระทำการดังกล่าวข้างต้นก่อนวันประชุม ไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยข้อความในหนังสือนัดประชุมต้องระบุสถานที่ วัน เวลา และ เรื่องที่จะพิจารณากัน กับข้อความที่จะนำเสนอให้ลงมติพิเศษ ซึ่งเรื่องที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีการลงมติพิเศษ คือ การเพิ่มทุน การลดทุน การแก้ไขข้อบังคับ การควบบริษัท การแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ การเลิกบริษัท และการแปรสภาพ เป็นบริษัทมหาชนจำกัดกัด

ทั้งนี้ ก่อนจะทำการนัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท จะต้องนัดประชุม คณะกรรมการเพื่อพิจารณากำหนด วัน เวลา สถานที่ และเรื่องที่จะเสนอให้ที่ประชุม ผู้ถือหุ้นพิจารณาเสียก่อน ถ้าไม่ลงโฆษณา ไม่ส่งหนังสือนัดประชุม ไม่ระบุ รายละเอียดในหนังสือนัดประชุมมีความผิด ปรับ

  • บริษัท ไม่เกินสองหมื่นบาท
  • กรรมการที่กระทำหรือละเว้น ไม่เกินห้าหมื่นบาท

และทุกครั้งที่มีการประชุมต้องทำการจดบันทึกรายงานการประชุม มติของ ที่ประชุมไว้ในสมุดให้ถูกต้อง ทั้งต้องเก็บรักษาสมุดจดบันทึกรายงานการประชุมไว้ ณ สำนักงานของบริษัท ถ้าไม่จดบันทึก หรือไม่เก็บรักษาสมุดมีความผิด ปรับ กรรมการ ไม่เกินห้าหมื่นบาท

  1. ต้องส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมดและผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นแล้วในวันประชุมสำมัญ ไปยังนายทะเบียนหุ้นส่วนนบริษัท อย่างน้อยปีละครั้งแต่ไม่ให้ ช้ากว่า 14 วัน นับแต่วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ถ้าไม่ส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นมีความผิด ปรับ กรรมการ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
  1. ต้องรีบนัดประชุมวิสำมัญผู้ถือหุ้นทันที เมื่อบริษัทขาดทุนถึงครึ่งหนึ่งของทุนจดทะเบียนเพื่อแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ หรือภายใน 30 วัน เมื่อมีผู้ถือหุ้น ซึ่งมีหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ร้องขอให้เรียกประชุม ถ้าไม่นัดประชุมมีความผิด ปรับ กรรมการ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
  1. ต้องจัดให้มีผู้สอบบัญชีหนึ่งคนหรือหลายคนมาตรวจสอบงบการเงิน แล้วต้องนำงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติภายใน สี่เดือนนับแต่วันที่ปิดบัญชี โดยต้องส่งสำเนางบการเงินให้ผู้ถือหุ้นดูล่วงหน้าก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 3 วัน และมีสำเนางบการเงินเปิดเผยไว้นสำนักงานของบริษัท ถ้าไม่ดำเนินการมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินสองหมื่นบาท
  • กรรมการที่กระทำหรือละเว้น ไม่เกินห้าหมื่นบาท

 จัดทำบัญชี

บริษัทจำกัด เป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี โดยจะให้กรรมการบริษัทเป็นผู้ดำเนินการแทน ซึ่งหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 มีดังนี้

  1. จัดทำบัญชีรายวัน บัญชีแยกประเภท บัญชีสินค้า และบัญชีประเภทอื่นตามความจำเป็นแก่การทำบัญชี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่จดทะเบียนเป็นบริษัท ถ้าไม่จัดทำบัญชีมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินสามหมื่นบาท และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละหนึ่งพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินสามหมื่นบาท และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละหนึ่งพันบาทจนกว่า จะปฏิบัติให้ถูกต้อง
  1. จัดให้มีผู้ทำบัญชีที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย เพื่อเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีของบริษัท ซึ่งอาจเป็นพนักงานของบริษัท ผู้รับจ้างทำบัญชีอิสระ หรือสำนักงานรับจ้างทำบัญชีก็ได้ ซึ่งเป็นผู้ที่จบไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชี หรือเทียบเท่าเป็นผู้ทำบัญชีให้ ยกเว้นบริษัทจำกัดที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และมีรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท สามารถให้ผู้ที่จบไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทางการบัญชีหรือเทียบเท่าเป็นผู้ทำบัญชีก็ได้ ซึ่งบริษัทจะต้องควบคุมดูแลผู้ทำบัญชีให้จัดทำบัญชีให้ตรงต่อความเป็นจริงและเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ถ้าไม่จัดให้มีผู้ทำบัญชีมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
  1. ต้องส่งมอบเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี ได้แก่ บันทึก หนังสือ หรือเอกสารใดๆ ที่ใช้เป็นหลักฐานในการลงรายการในบัญชี ให้กับผู้ทำบัญชีให้ครบถ้วนถูกต้อง เพื่อให้บัญชีที่จัดทำขึ้นสามารถแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินที่เป็นอยู่ตามความเป็นจริงและตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ถ้าไม่จัดให้มีผู้ทำบัญชีมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

  4.ต้องปิดบัญชีครั้งแรกภายใน 12 เดือน นับแต่วันเริ่มทำบัญชีและให้ปิดบัญชีทุกรอบ 12 เดือน นับแต่วันปิดบัญชีครั้งก่อน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีให้เปลี่ยนรอบปี บัญชีแล้ว อาจปิดบัญชีก่อนครบรอบ 12 เดือนได้  ถ้าไม่จัดให้มีผู้ทำบัญชีมีความผิด ปรับ

  • บริษัท ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

     5.จัดทำงบการเงิน ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของเจ้าของ หมายเหตุประกอบงบการเงิน และ งบการเงินเปรียบเทียบกับปีก่อน ถ้าไม่จัดทำมีความผิด ปรับ

  • บริษัท ไม่เกินห้าหมื่นบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินห้าหมื่นบาท

โดยงบการเงินต้องได้รับการตรวจสอบและแสดงความเห็นจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ถ้าไม่ดำเนินการมีความผิด ปรับ

  • บริษัท ไม่เกินสองหมื่นบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินสองหมื่นบาท
  1. จัดส่งงบการเงินที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่งบการเงินได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ ถ้าไม่ดำเนินการมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินห้าหมื่นบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินห้าหมื่นบาท
  1. เก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ ณ สถานที่ทำการ หรือสถานที่ที่ใช้ผลิตหรือเก็บสินค้าเป็นประจำ หรือสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำงานประจำ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5ปี นับแต่วันปิดบัญชี เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีให้เก็บไว้ ณ สถานที่อื่นได้ แต่ถ้บัญชีหรือเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหาย บริษัทต้องแจ้ง สารวัตรใหญ่บัญชี หรือสารวัตรบัญชีภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือ ควรทราบ โดยทั้งหมดนี้ ให้ยื่นเรื่องผ่านระบบงานการอนุญาต (DBD e-Permit) ถ้าไม่ดำเนินการมีความผิด ปรับ
  • บริษัท ไม่เกินห้าพันบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ไม่เกินห้าพันบาท

ถาม - ตอบ จดทะเบียนบริษัท

ถาม 1 - บริษัทจำกัด คือ อะไร

นาราการบัญชี - นิติบุคคลที่มีบุคคล (ผู้เริ่มก่อการ) ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เข้าร่วมกัน เพื่อจัดตั้งเป็นบริษัท โดยแบ่งทุนออกเป็นหุ้น มีมูลค่าหุ้นละเท่าๆ กัน ซึ่งแต่ละหุ้นมีมูลค่าไม่นอยกว่า 5 บาท  และมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการค้าร่วมกันโดยหวังผลกำไร และนำกำไรนั้นมาแบ่งปันระหว่างผู้ถือหุ้น ซึ่งผู้ถือหุ้นทุกคน มีความรับผิดในหนี้ของบริษัทจำกัดไม่เกินจำนวนเงินที่ยังส่งใช้ค่าหุ้นไม่ครบตามมูลค่าของหุ้นที่ผู้ถือหุ้นนั้นได้ถืออยู่

ถาม 2 - ในการจดทะเบียนบริษัท การระบุที่ตั้งสำนักงาน บริษัทจำเป็นต้องเป็นเจ้าของกรมสิทธิ์ในสถานที่ตั้งนั้น หรือไม่

นาราการบัญชี - ไม่ได้มีการกำหนดไว้ในกฎหมายว่า บริษัทจะต้องเป็นเจ้าของกรมสิทธฺ์ในสถานที่ตั้งนั้นๆ ดังนั้นบริษัทอาจได้สำนักงานที่ตั้งมาโดยการเช่า หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของกรมสิทธิ์ก็ได้

ถาม 3 - การจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการและอำนาจกรรมการ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียยื่นหนังสือคัดค้านการจดทะเบียนต่อนายทะเบียน สามารถทำได้ไหม

นาราการบัญชี - การประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อมีมติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการและอำนาจกรรมการ เมื่อได้นัดเรียกและได้มีการประชุมกันรวมทั้งได้ลงมติถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชย์ และข้อบังคับของบริษัทและยืนคำขอและเอกสารประกอบครบถ้วยถูกต้องตามระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางฯ แล้ว แม้จะมีการคัดค้านการจดทะเบียน แต่คำคัดค้านไม่มีเหตุผลพอที่จรับฟังได้ และระหว่างการพิจารณาไม่ปรากฎแก่นายทะเบียนว่าศาลได้มีคำสั่งห้ามมิให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนเป็นการชั่วคราวหรือมีคำสั่งอื่นใดในทำนองเดียวกัน นายทะเบียนพจารณารับจดทะเบียนได้

ถาม 4 - การเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษ ของบริษัท ต้องดำเนินการอย่างไรบ้างครับ

นาราการบัญชี - การเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษของบริษัทที่ระบุในหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 1 ไม่ต้องมีการลงมติพิเศษเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิรายการดังกล่าวเพราะชื่อภาษาต่างประเทศไม่ถือว่าเป็นชื่อจดทะเบียน  แต่หากบริษัทประสค์จะให้การเปลี่ยนชื่อดังกล่าวมีผลบังคับใช้ต่อสาธารณะชน สามารถดำเนินการได้โดยทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงชื่อภาษาอังกฤษของบริษัท  หรือจะยื่นคำขอจดทะเบียนรายการอย่างอื่นซึ่งเห็นสมควรจะให้ประชาชนทราบก็ได้

ถาม 5 - บริษัท มีทุนขั้นต่ำตามกฎหมาย เท่าไหร่

นาราการบัญชี - ตามกฎหมายการจดทะเบียน หุ้นบริษัท จะต้องมีมูลค่าขั้นต่ำ 5 บาท และในการจดทะเบียน จัดตั้งบริษัท จะต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 ท่าน ดังนั้น ทุนขั้นต่ำ ของบริษัท จะต้องมีอย่างน้อย 15 บาท

ถาม 6 - บริษัทจดทะเบียน ในกรุงเทพมหานคร แต่มาทำธุรกิจที่เชียงใหม่ ได้ไหมคะ แล้วถ้าทำ อีกหลาย จังหวัด ละ ได้ไหมคะ

นาราการบัญชี - คำถามนี้ค่อนข้างกว้างนะครับ  อันดับแรก คุณต้องอธิบายขอบเขตของการทำธุรกิจ ให้ทราบก่อนนะครับ ว่าทำอะไรบ้าง โดยผมอาจยกต้วอย่างคร่าวๆ ตาม สถานะการณ์ด้านล่างนี้ ครับ

  • ไปติดต่อธุรกิจ เพื่อเสนองาน และนำสินค้าตัวอย่างไปแสดงให้ลูกค้า  อย่างนี้ทำได้เลยครับ เพราะไม่ได้มีสถานประกอบการ และสถานจัดเก็บสินค้า ณ จังหวัดนั้น ลักษณะแบบนี้ ทำได้ทุกที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องขออนุญาต หรือ จดทะเบียนสาขา
    • ไปติดต่อธุรกิจ โดยมีสถานที่ทำงาน/หรือ มีการจัดเก็บสินค้า อย่างนี้ ก็ต้องขอจดทะเบียนสาขา ทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ กรมสรรพากร รวมถึง ยังจำเป็นต้องขอใบอนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วย

ถาม 7 - บริษัทมีผู้บริหารและผู้ถือหุ้น เป็นชาวต่างชาติ สิงคโปร์ ซึ่งไม่ได้เข้ามานั่งทำงานในไทย แต่ว่าจ้างพนักงานในไทย เพื่อประสานงานและติดต่อลูกค้า แบบนี้ ผู้บริหารต้องเซ็นต์เอกสาร ทุกอย่างเองเลยไหม หรือ สามารถมอบอำนาจให้เซ็นต์ได้ คะ

นาราการบัญชี - เอกสารที่ต้องเซ็นต์ ขอแยกตอบเป็น เอกสารทางธุรกิจกับคู่ค้า กับเอกสารทางราชการ นะครับ

  • เอกสารทางธุรกิจกับคู่ค้า ปกติวิสัย ท่านสามารถมอบอำนาจ ให้พนักงาน หรือบุคคลอื่น ที่น่าเชื่อถือทำแทนได้  แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคู่ค้าท่านเช่นกันว่า เขายะยอมรับสัญญานั้นไหม ทางที่ดี ขอแนะนำให้ท่าน เพิ่มพนักงานคนไทย หรือ บุคคลที่ท่านไว้ใจได้ ให้เป็นกรรมการบริษัท โดยกำหนดอำนาจกรรมการ ของผู้รับมอบท่านนี้ ให้เฉพาะเพื่อ.... ตามความเหมาะสมต่อไป
  • เอกสาร่ทางราชการ ตอบยากครับ เรื่องนี้ บางหน่วยงานก็ยอมรับ ให้มีการมอบอำนาจใตการเซ็นต์เอกสาร เช่น กรมสรรพากร แต่บางหน่วยงาน ก็ไม่ยอมรับเรื่องมอบอำนาจ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เช่นกันครับ เพื่อแก้ปัญหาที่ยั่งยืน แนะนำให้เพิ่ม ผู้รับมอบอำนาจเข้ามาเป็นกรรมการ แล้วกำหนดอำนาจกรรมการ เพื่อ..... ตามความเหมาะสมต่อไป

ถาม 8 - สามี มีบริษัทจดทะเบียน อยู่แถวรัชดา ส่วนตัวดิฉัน มีงานแปลเอกสาร แบบรับงานอิสระ ในนามบุคคล มาตลอด แต่ตอนนี้มีลูกค้าซึ่งจะมาจ้างงานประจำ ต้องการให้ดิฉันเรียกเก็บเงินในนามบริษัท ไม่ทราบว่า จะใช้บริษัทสามี รับเงินแทนและออกเอกสารใบเสร็จรับเงินได้ หรือไม่คะ

นาราการบัญชี - สามารถทำได้ครับ แต่ควรให้ความสนใจกับ ปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ถ้าจะมีรายได้ประเภทนี้อย่างต่อเนื่อง แนะให้บริษัทสามีเพิ่มวัตถุประสงค์ให้เรียบร้อย
  • บริษัทจำกัด ของ สามีเมื่อ เรียกเก็บเงิน กับลูกค้าแทนคุณแล้ว บริษัทสามี ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายด้วย คือ จ่ายค่าต้นทุนการแปลเอกสาร ให้กับคุณด้วยและดำเนินการหัก ณ ที่จ่ายให้ถูกต้อง โดย บริษัทจำกัด ของสามี ก็ต้องรับรู้กำไร ในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่าทำธุรกิจโดยไม่หวังกำไร
  • หากสามี ทำธุรกิจ ที่แตกต่าง จากงานแปลอย่างมาก เช่น รับเหมาก่อสร้าง หรือ ขายผ่อนชำระ แบบนี้ รูปแบบ ของการบันทึกบัญชี และการสียภาษี ก็จะต่าง กันพอสมควร หาก งานแปลของคุณมีอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้มากพอ แนะให้เปิดบริษัทเองแยกต่างหาก ออกไปเพื่อ ความสะดวกในการวางแผนภาษี และการทำบัญชีและภาษีอากร ครับ

ถาม 9 - ผมจำเป็นต้องเปิดบริษัท (จดทะเบียนบริษัท) เพราะลูกค้าบังคับมา แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้งาน นานแค่ไหน ก็ขอถาม ถึงขั้นตอนการปิดหน่อยครับ ว่ายุ่งยากไหม ค่าใช้จ่ายสักเท่าไหร่ กรณีแบบผม ต้องวางแผนอย่างไรครับ

นาราการบัญชี - ตอบยากเลยครับ คำถามนี้ ปกติผมจะแนะนำว่า อย่าเปิดเลย ถ้าไม่มั่นใจ ให้ยืมชื่อบริษัทอื่น รับงานไปก่อน (เช่นเดียวกับคำตอบก่อนหน้านี้) แต่คุณบอกว่า "จำเป็น" ผมก็ต้องตอบไปทำนองนี้นะครับ ผมเข้าใจว่ารายได้ยังไม่มากสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ต่อปี ผมแนะนำให้จดบริษัท แต่ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วคุณแจ้งลูกค้าว่าบริษัทคุณไม่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่สามารถออกเอกสารใบเสร็จรับเงิน แบบสมบูรณ์ ได้ ระหว่างนี้ ที่รายได้ไม่มาก อย่าเอา ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้ามานะครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องการเสียภาษีมากนัก เพื่อให้บริษัทมีรายการทางบัญชีไม่มากนัก  อย่างนี้ค่าทำงบการเงินและตรวจสอบบัญชี ในแต่ละปีจะไม่สูง  และกรณีที่ปีไหน ไม่มีรายได้ ก็ให้ทำเป็นแบบ งบเปล่า ไปเลย มีค่าใช้จ่ายทั้งปี แค่ 7,000 บาท เท่านั้น และถ้าเลิกในแบบ งบเปล่า ค่าบริการ ก็ประมาณ 13,000 บาท เท่านั้น เอง

  • คุณสามารถดูเพิ่มเติม เกี่ยวกับ บริการงบเปล่า ได้ที่ http://www.52accounting.com/fs.html
  • คุณสามารถดูเพิ่มเติม เกี่ยวกับ การปิดบริษัท (อันที่จริงไม่อยากพูดเรื่องปิดบริษัท บนหน้านี้เลยครับ) ได้ที่  http://www.52accounting.com/co-close.html

ยังไง เสีย ต้องการให้ผมช่วยวางแผน อะไรเพิ่มเติม ก็โทรได้รับ 080 - 288 2000

ถาม 10 - เพื่อนต่างให้ช่วยจดทะเบียนบริษัท เพื่อใช้ จดโดเมนเนม .co.th ในประเทศไทย ต้องจดแบบไหนดีครับ เขาไม่ได้เข้ามาทำธุรกิจในไทย แต่อาจมีรายได้เล็กน้อย ไม่ถึงล้านต่อปี หรืออาจไมีรายการธุรกิจ ในประเทศไทยเลย ต้องจดทะเบียนบริษัท แบบไหนดีครับ

นาราการบัญชี - การตอบคำถามนี้ ต้องขอกล่าวถึง เอกสารที่ต้องใช้ในการ  ขอจดโดเมนเนม นามสกุล .co.th ก่อนครับ คือว่า เอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่ หนังสือรับรองบริษัท ใบสำคัญการจดทะเบียน หรือ ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (หมายความว่า ไม่มีทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ ถ้ามีใบทะเบียนการค้า) และชื่อโดเมนเนอมนั้น จะต้อง

  • ชื่อโดเมนเนมจำเป็นต้องสอดคล้อง, เป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือย่อมากจากชื่อองค์กรได้
  • หนึ่งองค์กรสามารถจดทะเบียนโดเมนเนมได้เพียง 1 ชื่อเท่านั้น

ดังนั้น เพื่อนเป็นคนต่างชาติ ของคุณ จะต้องเปิดเป็นนิติบุคคล โดยอาจเป็น บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ก็ได้ครับ เพื่อจะได้มีเอกสารตามที่ผู้รับจดโดเมนเนม ต้องการ โดยแนะนำว่า ให้จดบริษัท/ จดห้างหุ้นส่วน (ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม และการตรวจสอบของกรมสรรพากร และมีค่าใช้จ่ายในการดูแลบัญชี ภาษีรายปี และทำงบการเงิน ไม่แพง ถ้าเป็นลักษณะนี้ แนะนำให้บริษัทในประเทศไทย ไม่ต้องมีรายได้ จะดีกว่า เพื่อให้เป็นแบบ งบเปล่า โดยแต่ละปี จะมีค่าใช้จ่ายครอบคลุม การทำบัญชี ภาษี และตรวจสอบบัญชี พร้อมนำยื่นหน่วยงานราชการต่างๆ แล้ว ประมาณ 7,500 บาทต่อปี ท่านดูเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.52accounting.com/fs.html

ถาม 11 - กำลังจะ เปิดบริษัท เพื่อรอรับงาน และเพื่อเสนองาน ไม่ทราบพอแนะนำได้ไหม จดทะเบียนบริษัทอย่างไร ง่ายและมีค่าใช้จ่ายในการดูแล รักษา น้อยที่สุด

นาราการบัญชี ถ้าจำเป็นต้อง เปิดบริษัท ก็เห็นด้วยครับ เบื้องต้น ต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ ครับ

  1. ทุนจดทะเบียน ขอให้จำไว้ว่า ทุนจดทะเบียน มีผลต่อการเสียภาษี ธุรกิจเฉพาะ ถ้าไม่มีทุนที่จะเรียกชำระจริง แม้ว่ามีทุนจริงแล้วเอามานำฝาก ก็ขอให้คิดว่า รายได้ค่าดอกเบี้ย ก็ต้องนำมาเสียภาษีนิติบุคคล (ภาษีธุรกิจเฉพาะต่อทุน 1 ล้าน ถ้าคิดดอกเบี้ย 3% ต่อปี จะต้องเสียภาษี 990 บาท และยังคงต้องเสียภาษีนิติบุคคลด้วย ถ้ารวมกำไรเกิน 300,000 บาท อี ในอัตรา ร้อยละ 15% ต่อปี) ดังนั้น ท่านอาจ จดทะเบียนด้วยทุนขั้นต่ำสุด อาจเริ่มจาก 15 บาท ก็ได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะมันส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ และจำไว้ว่า การเพิ่มทุนทุกครั้ง จะต้องมีค่าใช้่จ่ายในการจดทะเบียน และค่าธรรมเนียมด้วย
  2. จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ถ้าจดภาษีมูลค่าเพิ่ม ท่านมีหน้าที่ต้องยื่นภาษี และก็มีความยุ่งยาก ซึ่งท่านอาจต้องจ้างนักบัญชี ทำให้เสียภาษีทุกเดือน
  3. กรรมการบริษัท ท่านควรมี จำนวนกรรมการให้น้องที่สุด เช่น ควรมีแค่ 1 คน เพราะกรณีมีความผิดเกี่ยวกับ ค่าปรับต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ กรมธุรกิจการค้า ค่าปรับจะคำนวณตาม จำนวนกรรมการ ของบริษัทจำกัด
  4. พนักงานบริษัท ในช่วงแรก ถ้าเลือกได้ ควรทำจ่ายค่าจ้างแบบรับจ้างทำงานให้เพื่อจะได้ไม่มีภาระ เรื่องการนำส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และประกันสังคม ท่านอาจทำจ่ายทุกเดือน และสรุป เพื่อจ่าย สามเดือนครั้ง แต่ทั้งนี้เอกสารประกอบการจ่ายเงินค่าจ้าง/เงินเดือน ก็ต้องสัมพันธ์ กัน

ด้วยสิ่งที่กล่าวมานี้ น่าจะช่วยให้ท่าน เริ่มต้นธุรกิจ ได้อย่างง่ายขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่าย

ถาม 12 - ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ ต้องการเปิดบริษัท ทำธุรกิจ อีคอมเมิร์ช e-commerce ในประเทศ ไม่ทราบว่าควรจะทะเบียนแบบไหน ดี ทราบมาว่า สามารถได้สิทธิจาก บีโอไอ BOI ด้วย

นาราการบัญชี - บีโอไอ ได้เปิดให้มีการส่งเสริมการลงทุนใน กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ตามประกาศคณะการส่งเสริมการลงทุนที่ 2/2557 ในประเภท 5.8 โดยได้สิทธิประโยชน์ ที่ไม่ใช้ภาษีอากร แต่ก็มีแรงจูงใจ อย่างหน้าสนใจ เสียทีเดียว เช่น สิทธิในการถือครองหุ้น 100% โดยชาวต่างชาติ และ การอนุญาตให้นำผู้ชำนาญงานเข้ามาทำงานในโครงการที่ได้รับการส่งเสริม เป็นต้น

อันที่จริง ท่านสามารถ ยื่นขอ บีโอไอ ในนามส่วนตัว ชาวต่างชาติได้ก่อน เมื่อได้รับอนุญาติโครงการแล้ว ค่อยดำเนินการเปิดบริษัท แล้วจึงใช้บริษัทเข้ารับการส่งเสริม และขอใบนุญาตการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ต่อ กระทรวงพาณิชย์อีกครั้งหนึ่งครับ

อย่างไรเสีย การขอรับการส่งเสริมการลงทุน ก็มีข้อเสียหลายอย่าง และไม่เหมาะสำหรับกิจการขนาดเล็ก (บริษัทขนาดเล็ก) กล่าวคือ มีความยุ่งยากเรื่องการขอรับการส่งเสริม การจดทะเบียนบริษัทเพื่อรับใบอนุญาตตาม พรบ.คนต่างด้าว รวมถึง ระยะเวลา และ ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนเพื่อรับการส่งเสริม ดังนั้น ขอแนะนำให้ท่าน จดทะเบียนบริษัทแบบรูปแบบ ปกติ คนไทย : ต่างชาติ ( 51:49) ซึ่ง จะมีความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ อีกทั้งการจดทะเบียนบริษัท ก็มี ค่าใช้จ่ายจดทะเบียนบริษัท ที่ถูกว่า (ค่าบริการจดทะเบียน 3,500 บาท และรวดเร็วกว่า (ใช้เวลา จดทะเบียน 3 วันทำการ)  แล้วต่อมาภายหลัง เมื่อกิจการของลูกค้าท่าน มีขนาดใหญ่ขึ้น ค่อยดำเนินการขอส่งเสริมการลงทุน ก็ทำได้ครับ

ถาม 13 - ที่อยู่ในการจดทะเบียนบริษัท จะใช้คอนโดมิเนี่ยม ได้ไหมครับ เป็นของผมเอง

นาราการบัญชี – คอนโดมินเียม ใช้เป็นที่อยู่จดทะเบียนบริษัทได้ แต่ไม่สามารถใช้เป็นที่อยู่ในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น คุณต้องสำรวจเบื้องต้นก่อนว่า บริษัทคุณจำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือไม่ โดยทั่วไป จะต้องจดเมื่อเข้าเงื่อนไข อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

  1. บริษัทมีรายได้ ตั้งแต่ 1.8 ล้านบาท ต่อปี
  2. บริษัทเป็นคู่ค้า กับหน่วยงานภาครัฐ
  3. ลูกค้า คู่ค้า หรือ ผู้ขาย หรือ ผู้ให้บริการกับบริษัท บังคับ ให้บริษัทจดภาษีมูลค่าเพิ่ม
  4. ต้องการขอ ใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว

อนึ่ง ขอให้ข้อสังเกตุว่า  การไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็สามารถทำธุรกิจได้อย่างถูกกฎหมาย เพราะการออกใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้อง ครบถ้วน ตามกฎหมาย มาตรา 105 ทวิ

ถาม 14 - บริษัทต่างชาติ ต้องการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยมีบริษัทแม่เป็นลูกค้ารายเดียว แต่ต้องการเสียภาษีในประเทศไทย จดทะเบียนแบบไหน ดีคะ เขาต้องการถือหุ้น 100% เท่านั้นคะ ไม่อยากจดทะเบียนแบบ โนมินี คนไทย 51%

นาราการบัญชี – คำถามกว้างมากเลยครับ แต่มีประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ มีลูกค้ารายเดี่ยว คือบริษัทแม่ และต้องการรับรู้รายได้ ในประเทศไทย  จึงตีความได้ว่า

  • การอยากเสียภาษีในไทย นั้น ต้องเป็นบริษัทที่ตั้งตามกฎหมายไทย (จึงไม่ใช่ สาขานิติบุคคลต่างชาติ และสำนักงานผู้แทน) และ
  • มีบริษัทแม่เป็นลูกค้ารายเดียวนั้น บริษัทในไทยนี้จะต้องไม่มีขนาดใหญ่มาก และมีความยืนหยุ่นเรื่องการรับรู้รายได้

จากข้อสมมุติฐานข้างต้น จึงแนะว่า ควรจดทะเบียนเป็นรูป บริษัทจำกัด โดยถือหุ้นส่วนใหญ่ หรือ 100% โดยต่างชาติ แต่ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจต่างด้าว ตาม พรบ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2452 ซึ่ง ต้องเข้าดูในรายละเอียดอีกครั้งว่า ตกอยู่ในส่วนบัญชี แนบท้ายอะไร และสามารถถือหุ้นได้สัดส่วนถึง 100% หรือไม่  แต่เบื้องต้น ขอให้รายละเอียดดังนี้ครับ

  • ระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น 75 วัน แบ่งเป็นอนุมัติคำขอ 60 วัน และ ออกใบอนุญาตอีก 15 วัน
  • ค่าสมัคร 2,000 บาท และค่าธรรมเนียมออกใบอนุญาต 20,000 บาท
  • สำหรับเอกสาร และขั้นตอน มีรายละเอียด ค่อนข้างเยอะ ครับ ถ้าสนใจ ติดต่อ โทร 080-288- 2000

อันที่จริงบริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ได้หลายรูปแบบครับ ขึ้นอยู่กับความพร้อม ประเภทของกิจการ และขนาดของธุรกิจครับ  เช่น

  • กิจการขนาดใหญ่ อาจเลือกเข้ามาแบบ การขอรับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่าง เช่น การถือหุ้นโดยชาวต่างชาติ แต่มีระเบียบปฎิบัติที่ค่อนข้างซับซ้อน
  • สาขาของนิติบุคคลต่างประเทศ
  • สำนักงานผู้แทน (ห้ามมิให้รับรู้รายได้ ในประเทศไทย และอนุญาติให้ดำเนินการเฉพาะ บางกิจกรรมเท่านั้น)
  • บริษัทร่วมค้า Joint Venture
    • บริษัทร่วมทุน อาจเห็นเป็นส่วนมากถือหุ้นสัดส่วนแบบ 49% : 51%

ถาม 15 -  ทำไม ต้องเปิดบริษัท ในการทำธุรกิจ และทำไมไม่ทำในนามส่วนบุคคล

นาราการบัญชี - เราเปิดบริษัท และต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีประโยชน์ด้วยหลายเหตุผล ครับ ดังนี้
- เรื่องความน่าเชื่อถือ ถ้าดำเนินธุรกิจในรูปบริษัท (จริงๆ) กล่าว คือ มีคณะกรรมการ กรรมการ แบบนี้ ก็เชือได้ว่า การบริหารงานไม่ได้ขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง ลองนึกดูนะครับว่า ถ้าทำกับใครคนใด คนหนึ่ง คู่ค้าก้ต้องไปสืบว่า คนคนนั้น มีความเสี่ยงอะไรบ้าง เช่น เมียกี่คน ทำอะไรผิดกฎหมายไว้บ้าง เป็นโรคร้ายไหม ก็คงวุ้นวายกันไปหมด และยากที่จะค้าขายด้วย แต่รูปบริษัท นั้น อย่างน้อย ก็มีกฎหมายรับรองไว้ ช่วยกลั่นกรองได้ในระดับหนึ่ง
- การมีทุนจดทะเบียนและรับชำระ ก็จะทำให้คู่ค้า มั่นใจได้ว่า ตัวบริษัทเอง ก็มีทุนซึ่งอาจอยู่ในรูปของทรัพย์สินของบริษัท ก็ทำให้คู่ค้า มั่นใจว่าหาก ต้องเรียกร้องอะไรในอนาคต ทรัพย์สินหล่านี้สามารถนำมาชดเชยคู่ค้า และประกันความเสียงต่างๆ ได้
- เหตุผลที่สำคัญที่สุดของการเปิดบริษัท คงหนีไม่พ้น เรื่อง การจำกัดความรับผิด ของผู้เป็นผู้ถือหุ้น / ผู้เป็นหุ้นส่วน โดยหลักกฎหมายก็ต้องการให้แยกความรับผิดออกมา ระหว่างตัวผู้ลงทุน แยกออกมาอีกหนึ่งตัวคือ นิติบุคคล ให้นิติบุคคลมีความสามารถที่ทำกิจการงานได้ตามวัตถุประสงค์ของคนก่อตั้งขจึ้นมา สามารถกำหนดความรับผิดได้ พูดง่ายๆ ว่า คือ ความรับผิดสู
สุดของมันมีอยู่เท่าไหร่ ในส่วนของคนที่เป็นเจ้าของเองก็จะได้ เรียกว่าอุ่นใจ ความรับผิดนั้นยังไม่เลยกว่าความเป็นเจ้าของ ของผู้ถือหุ้น
- อีกเหตุผลที่สำคัญ คือ เพื่อลดภาระทางภาษี ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าการเสียภาษี หรือ การถูกเพ่งเร่งจากหน่วยงาน เรียกเก็บภาษี และหน่วยงานของรัฐเอง (กรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)

ถาม 16 - เคยเปิดบริษัท ไว้เมื่อหลายปีก่อน แต่เนื่องจากย้ายที่อยู่ จากต่างจังหวัดมาอยู่ กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้ กำลังต้องใช้บริษัท เพื่อเซ็นต์สัญญารับงาน  ไม่ทราบว่า ผมควร เปิดบริษัทใหม่ หรือ นำบริษัทเก่ามาใช้ครับ

นาราการบัญชี - อันดับแรก ต้องสำรวจก่อนครับว่า คู่ค้าที่จะเซ็นต์สัญญานั้น เขาให้เครดิต ของตัวคุณ หรือ บริษัท 

  • ถ้าให้ความสำคัญ ตัวคุณ การเปิดบริษัทใหม่ น่าจะช่วยให้คุณสะดวก เนื่องจาก ใช้เวลาเปิดบริษัท แค่ 3 วัน ท่านก็ได้บริษัทไปเซ็นต์สัญญา กล่าวคือ ไม่ต้องเสียเวลา ไปเคลียร์บัญชี และการยื่นภาษีย้อนหลัง ซึ่งน่าจะใช้เวลานาน พอควรเลยทีเดียว อย่างไรเสียหากท่านเลือกที่จะเปิดบริษัทใหม่ ท่านก็ควรเคลียร์บริษัทเก่า ย้อนหลังโดยยื่นทั้งบัญชีและภาษีย้อนหลัง ให้ถูกต้อง  และหากท่านไม่คิดจะใช้ก็ควรดำเนินการปิดบัญชี (จดทะเบียนเลิกบริษัท)ให้เรียบร้อย ต่อไป
  • ถ้าให้ความสำคัญ บริษัท ท่านต้องรีบจัดการเคลียร์บัญชี และภาษีย้อนหลัง พร้อมดำเนินการให้ถูกต้องและน่าเชื่อถือ ด้วย แน่นอนครับ คงต้องใช้เวลาพอสมควร

ถาม 17 - และต้องการเปิดบัญชีธนาคาร ในทันที ก่อนเซ็นต์สัญญา

นาราการบัญชี - บริษัทใหม่ ก็สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้เลยครับ แต่ธนาคารส่วนใหญ่จะอนุญาตให้เปิดเฉพาะบัญชีออมทรัพย์ก่อน และอีก 6 เดือนจึงยอมให้เปิดบัญชีธนาคารกระแสรายวัน  อย่างไรเสีย หากท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีและประวัติทางการเงินดี ท่านอาจถูกพิจารณาให้เปิดบัญชีกระแสรายวัน ก็เป็นได้

ถาม 18 - จะจดทะเบียนบริษัท แต่ไม่มีที่อยู่หลักแหล่งในกรุงเทพฯ แต่มีทะเบียนบ้าน และเป็นเจ้าบ้านที่ต่างจังหวัด ควรจดทะเบียน ที่ไหนดีคะ

นาราการบัญชี - ตามหลัก ที่อยุ่บริษัทที่จดทะเบียนบริษัท จะต้องเป็นแห่งเดียวกับสถานที่ประกอบธุรกิจ และบริษัทเอง ก็มีหน้าทีต้องยื่นทั้งภาษี และงบการเงิน ต่อหน่วยงานในท้องถิ่นเช่นกัน ดังนั้น เพื่อความสะดวก แนะนำให้ท่านจดทะเบียนในกรุงเทพฯ เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารงาน และอีกทั้งดีกว่า ในแง่ของความน่าเชื่อถือด้วยz

อย่างไรเสีย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ท่านอาจใช้ที่อยู่จากผู้ให้บริการ บริษัทเสมือน (Virtual Office) ซึ่งท่านอาจขอใช้ห้องประชุมเป็นครั้งคราว ได้ด้วย  กรณีที่ท่านต้่องการ ที่อยู่เพื่อจดทะเบียนบริษัท เราก็สามารถให้บริการเช่นกัน ติดต่อ นาราการบัญชี โทร 080 174 2000 , 02 933 5511

ถาม 19 - ผู้ถือหุ้น เป็นชาวต่างชาติ ชาติจีน และต้องการเข้ามาทำธุรกิจทัวร์ แบบ inbound ไม่ทราบว่าทำได้หรือไม่

นาราการบัญชี - อาชีพทัวร์ หรือ มัคคุเทศ เป็นอาชีพสงวน ไม่อนุญาตให้คนต่างชาติทำ แต่ถ้าทำในรูปแบบบริษัท จะต้องหาผู้ร่วมทุนกับคนไทย โดยคนไทยต้องถือหุ้นส่วนใหญ่ คือ ต่างชาติถือหุ้นได้แค่ 49% แต่สำหรับธุรกิจนี้ จะต้องมีการขออนุญาต คืในตัวบริษัท ต้องมีใบอนุญาตนำเที่ยว โดยที่ต้องขอกับกรมการท่องเที่ยว โดยมีเงื่อนไขคร่าวๆ ดังนี้

  • สัดส่วน ของผู้ถือหุ้นคนไทย ต่อต่างชาติ จะต้องมีคนไทย มากกว่าต่างชาติ
  • สัดส่วน ของกรรมการคนไทย ต่อ ต่างชาติ กรรมการคนไทยต้องมากกว่า
  • ต้องมีการวางประกัน ต่อ กรมการท่องเที่ยว แยกตามชนิดของการนำเที่ยว 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.52accounting.com/znews-038.html

จดทะเบียนบริษัทให้ ชาวต่างชาติ ถาม-ตอบ ข้อ 20 - 25 (ต้นฉบับภาษาอังกฤษ)

ถาม 20 - ผมต้องรู้อะไรก่อนที่จะจดทะเบียนบริษัท ?

ก่อนที่จะจดทะเบียนบริษัท คุณจำเป็นต้องรู้ข้อกำหนดตามด้านล่างนี้ก่อนครับ

  • ชื่อบริษัท จะต้องได้รับการอนุมัติ ก่อนที่จะจดทะเบียนบริษัท ใช้เวลา 1 – 2 วันทำการ
  • ต้องมี ผู้ถือหุ้น อย่างน้อย 3 คน (ผู้ถือหุ้นคนไทยอย่างน้อย 1 คน) ถือหุ้นโดย ผู้ถือหุ้นคนไทย 51% และ ผู้ถือหุ้นต่างชาติ 49% (ธุรกิจบางประเภท สามารถอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 100% ได้เช่นกัน)
  • ไม่มีข้อกำหนดทุนขั้นต่ำในการจดทะเบียน บริษัท (คุณสามารถเริ่มต้นด้วยหุ้นขั้นต่ำ 5 บาทและขั้นต่ำ 3 หุ้นซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นด้วยทุน 15 บาท) นอกจากนี้ไม่ว่าทุนจดทะเบียนจะกำหนดไว้เท่าใด ค่าธรรมเนียมรวมค่ารับรองเอกสาร โดยประมาณ 6,500 บาท
  • คุณสามารถจดทะเบียน บริษัท ที่เริ่มต้นด้วยทุนขั้นต่ำที่ชำระแล้ว 25% (ซึ่งจำนวนนี้สามารถเพิ่มได้หลังจากที่บริษัทของคุณจัดตั้งขึ้น) หรือการชำระเต็ม 100%
  • ที่อยู่ หรือสถานที่ตั้งบริษัทที่จดทะเบียน นั้น ต้องอยู่ในประเทศไทย โดย ที่อยู่ที่จดทะเบียนสามารถเป็นที่อยู่อาศัยหรือเชิงพาณิชย์ได้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของบ้านที่ตกลง เราสามารถให้ที่อยู่สำหรับคุณใช้ในการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งค่าบริการของเราคือ 18,000 บาทต่อปี
  • คุณจำเป็นต้องรู้ เรื่องโครงสร้างภาษี เช่น ภาษีหัก ณ ที่จ่ายประเภทต่าง ๆ การยื่นงบการเงินและภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนเริ่มดำเนินธุรกิจ
  • มีธุรกิจเฉพาะบางประเภทที่ต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจก่อนดำเนินธุรกิจ เช่น ร้านอาหาร สถาบันการศึกษา ตัวแทนการท่องเที่ยว บริการด้านการเงิน อุตสาหกรรม-โรงงาน นำเข้า - ส่งออก ตัวแทนจัดหางาน และการโรงแรม
  • หากคุณคาดว่าจะมีรายได้ต่อปีมากกว่า 8 ล้านบาท คุณจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และ บริษัทที่จดทะเบียน VAT จะต้องเรียกเก็บภาษีนี้ (ปัจจุบัน 7%) ให้กับลูกค้าตามสินค้าและบริการที่ให้ไว้ เมื่อคุณต้องการจดทะเบียน VAT เราสามารถให้ความช่วยเหลือในการจดทะเบียน VAT ได้ที่กรมสรรพากร แต่จะมีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับธุรกิจเฉพาะประเภทเช่นการขายสินค้าเกษตร การขายหรือนำเข้าวัสดุและหนังสือ บริการตรวจสอบบัญชี บริการด้านสุขภาพ บริการทางวิชาชีพอื่น ๆ บริการด้านการศึกษาและบริการด้านการขนส่ง
  • แรงจูงใจสำหรับทุน SME ไม่เกิน 5 ล้านบาทได้รับการยกเว้นภาษีที่ 0% สำหรับกำไรสุทธิระหว่าง 0 - 300,000 บาท, 15% สำหรับกำไรสุทธิช่วง 300,001 - 3,000,000 บาทและ 20% สำหรับกำไรสุทธิมากกว่า 3,000,000 บาท

ถาม 21 - ผมไม่ใช่คนไทยและผมต้องการจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย ผมต้องรู้อะไรบ้างครับ?

นอกเหนือจากข้อมูลทั่วไปที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนที่คนต่างชาติต้องพิจารณา

  • คุณสามารกว่าจ้าง ตัวแทนบริษัทที่รับจดทะเบียน เช่น นาราการบัญชี ดำเนินการแทน คนต่างชาติ หรือ นิติบุคคล สามารถจดทะเบียน บริษัท ด้วยตนเองได้
  • คุณไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตทำงานเพื่อจัดตั้งบริษัทจำกัด หากคุณดำเนินธุรกิจจากต่างประเทศ คุณสามารถเข้าสู่ประเทศไทยด้วยวีซ่าท่องเที่ยวเมื่อคุณต้องการดำเนินงานในบริษัท ในช่วงเวลาสั้น ๆ
  • หากคุณวางแผนที่จะย้ายมาที่ประเทศไทยเพื่อทำงานและดำเนินงานบริษัทของคุณ คุณจะต้องได้รับวีซ่าประเภท Non-Immigrant ประเภท B และขอใบอนุญาตทำงานซึ่งจะช่วยให้คุณทำงานในประเทศไทยได้
  • การจัดตั้งบริษัท อาจไม่ต้องเข้ามาในประเทศไทย (แต่มีกรรมวิธีซับซ้อน ด้านโนตารี่พับลิค) ส่วน วีซ่า และใบอนุญาตทำงานจะไม่สามารถดำเนินการได้หากคุณไม่ได้เดินทางมาในประเทศไทย

ถาม 22 - ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการจดทะเบียน บริษัทในประเทศไทย ?

หากต้องการจัดตั้งบริษัทของคุณในประเทศไทย คุณจะต้องจัดเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้

  • ชื่อ บริษัท
  • คำอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจ
  • สำเนาหนังสือเดินทาง / บัตรประชาชนของกรรมการและผู้ถือหุ้นพร้อมลงลายมือชื่อ
  • สำเนาหนังสือเดินทาง / รหัสประจำตัวของผู้สนับสนุนทุกคนพร้อมลงลายมือชื่อ
  • สำเนาหนังสือเดินทาง / บัตรประชาชนของพยาน 2 คนพร้อมลงลายมือชื่อ
  • หลักฐานสำนักงาน
  • ใบรับรองธนาคาร (สำหรับผู้ถือหุ้นไทย)

หากคุณใช้บริการกับ บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท โดยทั่วไปแล้วเขาจะต้องใช้เอกสารเหล่านี้จากคุณเพื่อเตรียมเอกสารที่จำเป็น

  • สำหรับผู้ถือหุ้นที่เป็นนิติบุคคล สำเนาหนังสือรับรองของบริษัท หรือเอกสารการจดทะเบียนบริษัท ที่แสดงรายละเอียดที่สำคัญของบริษัท เช่นหมายเลขลงทะเบียนชื่อบริษัท

ถาม 23 - ผมจะจดทะเบียนบริษัท ได้อย่างไรและใช้เวลานานแค่ไหน?

ในการจดทะเบียนบริษัทคุณจะต้องทำตามสามขั้นตอนครับ

  1. การจองชื่อ

โดยทั่วไป ชื่อบริษัท ใหม่จะได้รับการอนุมัติหรือปฏิเสธภายใน 1-2 วัน ข้อยกเว้นหากชื่อที่เสนอมีคำบางคำ (เช่นการเช่า, บริษัท จัดหางานเอกชน ฯลฯ ) ที่อาจต้องการการตรวจสอบและอนุมัติเพิ่มเติมจากหน่วยงานของรัฐภายนอกที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม - ในกรณีที่การอนุมัติชื่ออาจไม่ได้รับการอนุมัติ ขอให้เปลี่ยนเป็นชื่ออื่น

หากต้องการให้ชื่อบริษัท ที่คุณเสนอได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อนั้น

(1) ชื่อที่ใช้ คำที่ขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐ หรือ ชื่อที่ใช้คำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

(2) ชื่อที่ใช้ภาษาต่างประเทศมีความหมายหรือเสียงเรียกขานไม่ตรงกับชื่อภาษาไทย

(3) ชื่อที่ใช้คำหรือตัวอักษรไม่ถูกหลักภาษาไทย

หมายเหตุ: ชื่อบริษัท สามารถใช้งานได้ 30 วันและคุณต้องต่ออายุอีกครั้งเพื่อใช้งาน

  1. การเตรียมเอกสารและการลงนาม
  2. ลงทะเบียน บริษัท

เมื่อชื่อได้รับการอนุมัติและมีการลงนามในเอกสารการจดทะเบียน บริษัทอย่างถูกต้องแล้ว การจดทะเบียน บริษัท สามารถจดเสร็จภายใน 1 วันทำการ ในบางกรณีเจ้าหน้าที่อาจขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้นหรือกรรมการของบางประเทศ

ถาม 24 - ผมจะรู้ได้อย่างไงว่า บริษัท ของฉันจัดตั้งเรียบร้อยแล้ว ?

เมื่อคุณจดทะเบียนบริษัทของคุณและ เมื่อได้รับการอนุมัติคุณจะได้รับเอกสารการจดทะเบียนทั้งหมดในวันเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีการใช้ข้อบังคับของบริษัท เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเพิ่มเติมและอาจขยายเวลาอนุมัติในวันถัดไป (ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีกับเจ้าหน้าที่) เมื่อเราได้รับเอกสารการจดทะเบียน เราจะแปลเป็นภาษาอังกฤษภายใน 1 วันทำการสแกนและส่งกลับมาหาคุณในวันถัดไป

ค่าธรรมเนียม 6,500 บาท ไม่จำกัด จำนวนทุนจดทะเบียน ใบรับรองที่คุณจะได้รับมีดังนี้

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
  • หนังสือรับรองบริษัท
  • วัตถุประสงค์
  • รายชื่อผู้ถือหุ้น
  • หนังสือบริคณห์สนธิ
  • รายงานการประชุมตามกฎหมาย
  • รายงานจดทะเบียนจัดตั้ง (บอจ.3)
  • ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ 20) (กรณีที่คุณจดทะเบียน VAT)

รายการอื่น ๆ ที่คุณจะต้องใช้ ในการจดทะเบียนบริษัท ประกอบด้วย:

  • ตรายางสำหรับบริษัท

** หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีคือหมายเลขทะเบียน บริษัท

ถาม 25 - ผมต้องทำอะไรหลังจากจดทะเบียนบริษัท สำเร็จ?

หลังจากจดทะเบียนบริษัทของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัทได้ที่ธนาคารใด ๆ ในประเทศไทยเช่นธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นต้นอย่างไรก็ตามธนาคารในประเทศส่วนใหญ่ต้องการใบอนุญาตทำงานของกรรมการ เพื่อเปิดบัญชีดังนั้นคุณต้องตรวจสอบกับสาขาของธนาคารก่อนและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หากพวกเขาจะอนุญาตให้บริษัทของคุณเปิด

ในการเปิดบัญชีธนาคารของบริษัทกรรมการจะต้องแสดงตัวที่ธนาคารเพื่อลงนามในเอกสาร

หากคุณต้องการเริ่มธุรกิจในประเทศไทย เราได้กล่าวถึงแนวทางข้างต้นที่อาจช่วยคุณเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มทำธุรกิจ 

ถาม 26 -ผมพึ่งเปิดบริษัท แต่มีปัญหากับหุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง ผมสามารถเปลี่ยนผู้ถือหุ้นได้ไหมครับ

ตอบ - ผู้ถือหุ้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ แต่ผู้ถือหุ้นท่านเดิม ต้องเซ็นต์สัญญาโอนหุ้นให้ท่าน หรือผู้ถือหุ้นท่านอื่น แล้วจึงจัดทำแบบแสดงรายชื่อผู้ถือหุ้นอันใหม่ เพื่อไปแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และอย่าลืมว่า ผู้ถือหุ้นในบริษัทต้องไม่น้อยกว่า 3 ท่าน และผู้ถือหุ้นต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 12 ปี เท่านั้น

ถาม 27 - หุ้นมีกี่ประเภท บริษัทสามารถเลือกจดทะเบียนหุ้นได้ แบบไหนบ้าง

ตอบ - ภายใต้กฎหมายไทย หุ้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท หุ้นสามัญ และ หุ้นบุริมสิทธิ ทั้งหุ้นสามัญ และ หุ้นบุริมสิทธิ มีสิทธิและมีหน้าที่ต่อบริษัทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  แต่สิทธิแตกต่างกันมาก (อ่านเพิ่มเติม ที่นี้)

ถาม 28 - เรากำลังมอหา ผู้ให้บริการ เพื่อจดทะเบียนธุรกิจในประเทศไทย ธุรกิจหลักคือ ดำเนินการเรื่องการตลาด บริการนำส่งค่าเทอมให้มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และดำเนินการเรื่องวีซ่าของนักเรียนที่ต้องไปศึกษาต่างประเทศ  คุณสามารถช่วยจดทะเบียน ในแบบ สำนักงานผู้แทน ได้ไหม รวมถึงแจ้งให้เราทราบเรื่อง ค่าใช้จ่าย ระยะเวลา และปัญหาอะไรบ้าง ที่ต้องรีบแก้ไข และจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจาก กระทรวงศึกษาธิการ หรือ หน่วยงานราชการอื่นอีกหรือไม่

ตอบ - ตามประเภทธุรกิจที่แจ้งมานั้น ไม่สามารถจดทะเบียน แบบ สำนักงานผู้แทนได้ เนื่องจาก การดำเนินการด้านการตลาด และอื่นๆ ล้วนเป็นกิจกรรม ที่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งต่างจากวัตถุประสงค์ที่ยอมรับได้ ของสำนักงานผู้แทน  ดังนั้น วิธีการจดทะเบียนของธุรกิจประเภทนี้ ที่ดีที่สุด คือ บริษัทจำกัด ซึ่งแน่นอนว่าต่างชาติ จะถือหุ้นได้ในสัดส่วนไม่เกิน 49% ส่วนที่เหลือ ต้องเป็นคนไทย  โดยธุรกิจดังกล่าว ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุม จึงไม่ต้องใบอนุญาตเฉพาะ ดังนั้นเมื่อท่านจดทะเบียน เสร็จ ก็สามารถทำธุรกิจได้เลย

ถาม 29 - เคยจดทะเบียนบริษัท ไว้เมื่อหลายปีก่อน  แต่ตอนนี้ต้องการหยุดกิจการ แต่ไม่ต้องการปิดบริษัท อย่างนี้ ต้องแจ้งหน่วยงานราชการ หรือไม่ และทำอย่างไร

ตอบ - โดยปกติไม่ต้องแจ้งครับ (สรรพากร อาจขอให้ท่านแจ้งหยุดกิจการ สำหรับกิจการที่จด ภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่ได้มีกฎหมายบังคับ และส่วนตัวมองว่าไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยในการแจ้ง จึงไม่จำเป็นต้องแจ้ง ครับ) แต่ถ้าท่านจะหยุดดำเนินการเป็นเวลานาน หรือยังไม่มีกำหนด ขอแนะนำว่า ท่านต้องจัดการ รายการบัญชี (ทรัพย์สิน / หนีสิน) ต่างๆ ให้เรียบร้อยเพื่อให้มีขนาดกิจการเล็กที่สุด เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระ  เช่น ถ้ามีรายการทรัพย์สิน ที่ไม่ได้ใช้ ก็ควรทำขายออกไป อาจขายให้ส่วนตัว, รายการธนาคาร เป็นไปได้ก็ปิดให้หมด, เจ้าหนี้ และหนี้สินอื่นๆ ควรชำระให้หมด เพื่อให้ง่ายต่อการปิดบัญชี ในรอบต่อไป และเผื่อว่าตอนปิดบริษัท จะได้ง่าย ด้วยครับ

ถาม 30 - ต้องการจดทะเบียน แต่ไม่มีสถานทีตั้งสำนักงาน ในกรุงเทพฯ แต่ทีมงานอยู่ กทม. ทั้งหมด แบบนี้ ควรจดทะเบียนด้วย ที่อยู่ใน กทม. หรือ ต่างจังหวัด ดีคะ  ถ้าเลือกใช้ที่อยู่ ใน กทม. มีแนะนำผู้ให้บริการเกี่ยวกับที่อยู่ เพื่อจดทะเบียนไหมคะ

ตอบ - ถ้าทำธุรกิจ โดยทีมงาน อยู่ใน กทม. แนะนำให้จดทะเบียนโดยใช้ที่อยู่ใน กทม. ครับ เพื่อความสะดวก ในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ และติดต่อต่อกับลูกค้า อีกทั้งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และโอกาสในการติดต่อธุรกิจ แต่ถ้าคุณเลือกจดทะเบียนโดยใช้ที่อยู่ใน ตจว. (เช่น นครสวรรค์) เมื่อถึงเวลายื่นภาษี งบการเงิน หรือ ถูกตรวจสอบ คุณยังคงมีหน้าที่ต้องไปติดต่อ ณ จังหวัด นั้นๆ

สำหรับ ที่อยู่เพื่อจดทะเบียนบริษัท นั้น ทาง นาราการบัญชี เอง ก็มีให้บริการครับ โดยคุณ ใช้จดทะเบียนบริษัทได้ แต่ไม่สามารถจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้  อย่างไรเสีย หากคุณจำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เราจะเสนอที่อยู่จดทะเบียนเป็นการเฉพาะรายต่อไป 

ถาม 31 - ต้องการเปิดบริษัท แล้วว่าจ้า พนักงานต่างชาติ เข้าทำงานในบริษัท ทางนาราการบัญชี ช่วยแนะนำ วางแผน ในการจดทะเบรยนให้ด้วย ได้ไหมคะ และ มีบริการเรื่องการขอวีซ่า ทำงานและใบอนุญาตทำงานให้ชาวต่างชาติไหมคะ

ตอบ - แน่นอนครับ เราต้องวางแผน และแนะนำ การจดทะเบียนให้กับลูกค้าทุกราย ตั้งแต่ การจดทะเบียน สำหรับบริษัท ที่ต้องการขอใบอนุญาต ทำงานให้ ชาวต่างชาติ ควรวางแผนการจดทะเบียนดังนี้

  1. ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท (ต่อพนักงานต่างขาติ 1 คน)
  2. จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  3. มีสถานประกอบการ (ในการขอวีซ่าทำงาน ต้องมีภาพถ่ายประกอบ และ อาจมีการสุ่มเข้าตรวจสถานประกอบการ)
  4. จ้างงาน พนักงาน คนไทยอย่างน้อย 4 คน (ต่อการว่าจ้างชาวต่างชาติ 1 คน)
  5. มีกรรมการผู้จัดการเป็นคนไทย (และกำหนดอำนาจกรรมการ สามารถเซ็นต์ได้โดยลำพัง ) เพื่อช่วยสนการเซ็นต์เอกสารในขั้นตอนการยื่นคำขอ เนื่องจากคนต่างชาติที่เป็นกรรมการไม่สามรถเซ็นต์เอกสารได้

การให้บริการในการขอ ใบอนุญาตทำงาน และ วีซ๋าทำงานนั้น ทาง นาราการบัญชี เอง ก็สามารถให้บริการได้ครับ (เราเอง ก็ว่าจ้างชาวต่างชาติทำงานในบริษัทเราเช่นกัน) แต่ทางลูกค้า ต้องมีความพร้อมตาม เงื่อนไข ที่กล่าวข้างบน ทั้ง 5 ข้อดังกล่าว  และด้วยเหมือนกัน กรณีที่ท่านต้องการยื่นเอกสารด้วยตัวเอง เราก็มีบริการ คัดเอกสารเพื่อประกอบการขอวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน  รวมถึง ช่วยเตรียมเอกสารดังกล่าว ได้เช่นกัน 

ถาม 32 - ผู้ถือหุ้นอีกท่านหนึ่ง เป็นชาวต่างชาติ ไม่ทราบว่าตอนที่เข้ามาเซ็นต์เอกสาร จดทะเบียนบริษัท เขาต้องขอวีซ่าประเภทอะไร คะ

ตอบ - ในการจดทะเบียนบริษัท โดยมีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้น หรือ กรรมการนั้น ไม่มีข้อจำกัดเรื่องการประทับวีซ่า จึงสามารถเข้ามาด้วยวีซ๋า ท่องเที่ยว ก็ได้ อย่างไรเสีย ในการจดทะเบียนจะต้องถ่ายสำเนา passport พร้อมมีอายุวีซ๋าเหลือเท่านั้น โดยไม่จำกัดประเภทวีซ่า

ถาม 33 - แต่ถ้าผู้ถือหุ้น ที่จะเข้ามา จดทะเบียนบริษัท และเขาต้องการติดต่อธุรกิจด้วย เช่น หาที่ตั้งบริษัท หาพนักงาน และ อื่นๆ ซึ่งคาดว่า อาจใช้เวลามากกว่า 2 เดือน สำหรับทริป นี้ ควรทำอย่างไรกับเรื่อง วีซ่า ดีคะ

ตอบ - ปกติ ส่วนใหญ่แล้ว วีซ่าท่องเที่ยวจะมีอายุแค่ 1 เดือน โดยส่วนใหญ่แล้วชาวต่างชาติมักจะออกไปแสตมป์วีซ่า ที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็ด่าน ปอยเปต ประเทศกัมพูชา (ห่าง กทม. แค่ 250 กิโลเมตร)

อย่างไรเสีย บริษัทหลายแห่งก็เลือกที่จะทำให้ถูกต้อง ตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศไทย โดย ติดต่อสถานทูตไทย ในประเทศนั้นๆ แล้วยื่นเอกสาร (ด้านล่าง เป็นตัวอย่างสำหรับประเทศ อินเดีย - บางประเทศจะใช้เอกสารน้อยกว่านี้)

  • หนังสือเชิญให้เข้าประเทศไทย จากบริษัทในประเทศไทย เพื่อประกอบธุรกิจ โดยควรระบุ ระยะเวลา และแผนการเดินทาง
  • จดหมายออกโกยบริษัทที่ชาวต่างชาตินั้นทำงานอยู๋ พร้อมแนบโปรไฟล์ ของบริษัทนั้น มาด้วย
  • โปรไฟล์ ของบริษัทไทยที่ออกหนังสือเชิญ
  • เอกสารจดทะเบียนบริษัท โดยเฉพาะบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
  • แบบแสดงการเสียภาษี ภงด. 50 ปีล่าสุด
  • งบการเงินล่าสุด
  • ถ้าเป็นบริษัทพึ่งจดทะเบียนใหม่ แค่ทำจดหมายชี้แจง ว่าเป็นบริษัทใหม่ จึงไม่มีแบบภาษีและงบการเงิน

อย่างไรเสีย กรณีที่ท่าน เดินทางเข้ามาจดทะเบียนกับบริษัท นาราการบัญชี จำกัด ทางเราสามารถดำเนินการเอกสาร ภายในบริษัทเราได้ โดยมีค่าใช้จ้่ายในการดำเนินการเรื่องเอกสาร เล็กน้อย กรณีที่ท่านต้องการ กรุณาติดต่อ โทร 080 175 2000

 

​สนใจบริการ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

บริษัท นารา การบัญชี จำกัด

โทร 080 173 2000 ; 080 174 2000
โทร 080 286 2000 ; 080 287 2000
โทร 02 933 5511 ; 02 933 5512

กรณีเร่งด่วน/ หลังเลิกงาน โทร 080 175 2000 คุณ ธนา

อีเมล์: info@53ac.com , สำเนา CC: 53ac.com@gmail.com

เพิ่ม นาราการบัญชี เป็นเพื่อน

Line ID:

@nara53

เพิ่มเพื่อน

 
 
 
 

บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด จดทะเบียน เปิดบริษัทใหม่

นิติบุคคลจัดตั้งเดือนตุลาคม 2561
1 0915561000341 บจ.ไอส์แลนด์ สเปเซส จำกัด 2/10/2561             2,000,000 อ.เมืองสตูล จ.สตูล
2 0915561000367 บจ.ประสานเวิลด์ทัวร์ จำกัด 19/10/2561             1,500,000 อ.เมืองสตูล จ.สตูล
3 0915561000359 บจ.พี.ไอ.อี อิเลคทริคคอล จำกัด 2/10/2561             1,000,000 อ.เมืองสตูล จ.สตูล
4 0915561000375 บจ.เดอะ ทรานสปอต์เตอร์ จำกัด 22/10/2561             1,000,000 อ.เมืองสตูล จ.สตูล